ปรอทวัดไข้ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง
ปรอทวัดไข้ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง เมื่อเรารู้สึกไม่สบาย และรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิที่ไม่ปกติของร่างกาย แต่เราไม่สามารถรู้ได้ว่าอุณหภูมิในร่างกาย ณ ตอนนั้นเท่าไร และมีความเสี่ยงแค่ไหนต่อการเป็นไข้สูง การวัดไข้จึงเป็นวิธีที่จะทำให้เรารู้ได้ว่าอุณหภูมิของร่างกายอยู่ที่เท่าไร และอุปกรณ์ที่จะช่วยวัดอุณหภูมิที่ใช้ง่าย สะดวก และนิยมในปัจจุบันก็คือ ปลอดวัดไข้ หรือ เทอร์โมมิเตอร์
ปรอทวัดไข้ หรือ เทอร์โมมิเตอร์ (Thermometer) เป็นอุปกรณ์ดูแลสุขภาพที่หลายคนมีติดบ้าน ยิ่งช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อุปกรณ์ชิ้นนี้ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นกว่าเดิม เพราะต้องนำมาวัดอุณหภูมิร่างกายตลอดทุกวัน ดูภายนอกเหมือนจะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน แต่หากเราใช้งานผิดวิธีอาจทำให้ผลที่ออกมาผิดพลาดได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีเราจึงต้องรู้วิธีการใช้ให้ถูกต้อง
อุณหภูมิแบบไหนถึงเรียกว่าปกติ
โดยปกติอุณหภูมิของผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพแข็งแรงจะอยู่ระหว่าง 36.5 – 37.2 องศาเซลเซียส ในเด็กเล็กอาจมีอุณหภูมิปกติต่างกับผู้ใหญ่อยู่ 1 – 2 องศาเซลเซียส หากวัดอุณหภูมิแล้วพบว่าสูงหรือต่ำกว่านี้ แสดงว่าร่างกายอาจมีความผิดปกติ อุณหภูมิในร่างกายคนเราไม่คงที่ มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่ออุณหภูมิในร่างกายตลอดเวลา เช่น เพศ อายุ อาหารที่รับประทาน การออกกำลังกาย เป็นต้น
เกณฑ์ปกติของอุณหภูมิในร่างกายแบ่งตามวิธีในการวัดไข้ได้ดังนี้
- อุณหภูมิปกติทางปาก 35.5-37.5 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิปกติทางทวารหนัก 36.6-38 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิปกติทางรักแร้ 34.7-37.3 องศาเซลเซียส
- อุณหภูมิปกติทางหู 35.8-38.0 องศาเซลเซียส
ที่วัดไข้แบบแก้ว แตกต่างจากแบบดิจิทัลอย่างไร
ทั้ง ที่วัดไข้แบบแก้ว และแบบดิจิทัลจะให้ค่าความแม่นยำที่ใกล้เคียงกัน แต่ที่วัดไข้แบบดิจิทัลจะได้รับความนิยมมากกว่า เนื่องจากใช้งาน สะดวกกว่า รู้ผลไว
ปรอดวัดไข้แบบแก้ว
ข้อดี : ราคาถูก ไม่แพง
ข้อเสีย : มีการใช้งานค่อนข้างยุ่งยาก เพราะก่อนวัดไข้ต้องหมั่นเช็ค ที่วัดไข้อยู่เสมอว่าอุณหภูมิต่ำกว่า 36 องศา อ่านค่าได้ยาก ตัวปรอทแก้วมีความเปราะบางต้องระมัดระวังในขณะที่ใช้งาน ซึ่งอาจจะทำให้แตกหักจนมีสารปรอทออกมาได้
ที่วัดไข้แบบดิจิทัล
ข้อดี : ตรวจวัดอุณหภูมิได้ง่าย รวดเร็ว เพียงแค่กดปุ่มวัดไข้แล้วรอผลเท่านั้น ตัวที่วัดไข้ดิจิทัลไม่ได้ทำจากแก้ว จึงไม่แตกหักง่าย ไม่มีสารปรอทที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ใช้ได้กับทุกเพศ ทุกวัย
ข้อเสีย : ที่วัดไข้ดิจิทัล ราคาสูงกว่าที่วัดไข้แบบแก้ว
ปรอดวัดไข้ใช้อย่างไรให้ถูกต้อง
การใช้ที่วัดไข้มีหลายวิธี แต่วิธีที่คนนิยมใช้มีดังนี้
วัดไข้ทางปาก
เป็นการวัดอุณหภูมิที่สอดส่วนปลายของปรอทไว้ใต้ลิ้น และปิดปากให้สนิท จากนั้นรอประมาณ 3 – 4 นาที ให้แถบปรอทนิ่งจึงค่อยอ่านค่า ส่วนปรอทแบบดิจิทัลให้รอจนสัญญาณดังจึงค่อยอ่านค่าอุณหภูมิ การวัดไข้ทางช่องปากนั้นไม่ควรทำหลังจากทานอาหารทันที ควรทำหลังจากทานอาหารและเครื่องดื่มอย่างน้อย 20 – 30 นาที เพราะอาจมีผลต่ออุณหภูมิในช่องปาก โดยการวัดไข้ทางช่องปากนี้ไม่ควรใช้กับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี เพราะเด็กอาจกัดปรอทแตกได้
วัดไข้ทางรักแร้
เป็นวิธีที่สะดวก และง่าย แต่ผลอาจไม่แม่นยำเท่ากับวัดทางปากหรือทางทวารหนัก และไม่ควรวัดไข้ทางรักแร้หลังอาบน้ำทันทีหรือขณะใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น เพราะอาจส่งผลต่ออุณหภูมิที่วัดได้ สามารถทำได้โดยการเหน็บที่วัดไข้ไว้ที่รักแร้โดยให้ปลายของเทอร์โมมิเตอร์อยู่กึ่งกลางรักแร้ไม่เลยไปด้านหลัง สำหรับที่วัดไข้ธรรมดาให้รอประมาณ 4 นาที ให้ปรอทนิ่งจึงอ่านค่า ส่วนปรอทแบบดิจิทัลให้รอจนมีสัญญาณดังก่อนจึงอ่านค่า โดยค่าอุณหภูมิปกติทางรักแร้จะต่ำกว่าการวัดทางช่องปากประมาณ 0.6 องศาเซลเซียส
วัดไข้ทางทวารหนัก
เป็นวิธีที่นิยมใช้ในเด็กเล็ก และควรทำอย่างระมัดระวัง หรือทำโดยผู้เชี่ยวชาญ เพราะมีความเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดการบาดเจ็บ โดยก่อนวัดไข้ให้เช็ดทำความสะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อและทาสารหล่อลื่นที่ปลายปรอทก่อนเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
จากนั้นสอด ที่วัดไข้เข้าไปในรูทวารลึกประมาณ 1.25 – 2 เซนติเมตร ขั้นตอนนี้ควรระมัดระวังไม่สอดเทอร์โมมิเตอร์เข้าไปลึกจนเกินไป รอประมาณ 2 นาทีให้แถบปรอทหยุดนิ่งก่อนจึงอ่านค่าอุณหภูมิ วิธีนี้ควรทำอย่างระมัดระวังเพราะอาจทำให้บาดเจ็บได้
วัดไข้ทางหู
ก่อนการวัดไข้ให้ทำความสะอาดเทอร์โมมิเตอร์ให้เรียบร้อย โดยการเช็ดด้วยผ้าแห้ง แต่ไม่ควรนำไปล้างน้ำ จากนั้นใส่ฝาครอบเทอร์โมมิเตอร์ เพื่อช่วยป้องกันสิ่งสกปรก (ควรเปลี่ยนฝาครอบใหม่ทุกครั้งก่อนการใช้วัดไข้) หากเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 12 เดือน ให้ดึงติ่งหูลงและเอียงไปทางด้านหลัง เพื่อช่วยให้สอดเทอร์โมมิเตอร์เข้าไปในรูหูได้ง่ายขึ้น
แต่สำหรับเด็กอายุมากกว่า 12 เดือนขึ้นไปหรือผู้ใหญ่ควรดึงติ่งหูขึ้นด้านบนและเอียงไปทางด้านหลังแทน ค่อยๆ นำเทอร์โมมิเตอร์สอดเข้าไปในช่องหู โดยให้ตำแหน่งที่เป็นตัวรับอุณหภูมิอยู่ตรงตำแหน่งรูหูกดปุ่มวัดอุณหภูมิและอ่านค่า
วัดไข้ทางผิวหนัง
เป็นวิธีที่สะดวกและรวดเร็ว โดยมักนิยมใช้กับเด็กเล็กมากกว่าผู้ใหญ่ แต่ความแม่นยำอาจน้อยกว่าเมื่อเทียบกับวิธีอื่น ก่อนการวัดไข้ควรมีการทำความสะอาดผิวบริเวณหน้าผากให้เรียบร้อย จากนั้นนำเอาแผ่นแปะทาบตรงกลางหน้าผากของเด็กกดเบาๆ และรอสักครู่ลอกแผ่นแปะออกจากหน้าผาก และอ่านผลจากตัวเลขที่แสดงบนแถบด้านบน
ที่วัดไข้ เก็บอย่างไรให้ถูกวิธี
หลังจากใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้ง แล้วเก็บไว้ในอุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงแสงแดด โดยเก็บไว้ให้ไกลมือเด็กและสัตว์เลี้ยง
ที่วัดไข้มีหลายแบบหลายยี่ห้อ สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม และสามารถเลือกซื้อ ที่วัดไข้ที่ดีและมีคุณภาพกับเราได้ที่ Magdcine
ขอบคุณข้อมูลจาก
วัดไข้ ทำอย่างไรให้ถูกวิธี
ที่วัดไข้แบบแก้ว มีวิธีใช้อย่างไร ต้องวัดกี่นาที แตกต่างจากแบบดิจิตอลยังไงบ้าง ราคาเท่าไหร่ ?
รู้ก่อนใช้ ! ปรอดวัดไข้ ใช้อย่างไรให้ถูกวิธี

หากต้องการซื้ออุปกรณ์ทางการเเพทย์ บริษัท แม็กดีซีน จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจำหน่าย อุปกรณ์ทางการเเพทย์ ที่มีคุณภาพและผู้บริโภคสามารถใช้งานเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง และสะดวกในการหาซื้อสินค้า มีมาตรฐานสากล ท่านที่สนใจสามารถคลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม หรือ ติดต่อสอบถาม
เพิ่มได้ทันที