อาการปวดหลังเป็นปัญหาที่ใครหลายคนเป็น ไม่ว่าจะเป็นจากการนั่งทำงานนาน ยกของหนัก อุปกรณ์ซัพพอร์ตหลังจึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่หลายคนมองหา เพื่อบรรเทาอาการปวดและป้องกันการบาดเจ็บในระยะยาว แต่การเลือกอุปกรณ์ซัพพอร์ตหลังที่เหมาะสมกับสรีระของแต่ละคนนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหากเลือกผิดประเภทหรือขนาด อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหลังมากกว่าผลดี
ควรเลือกอุปกรณ์ซัพพอร์ตหลังอย่างไร?
1. ระบุประเภทของอุปกรณ์ซัพพอร์ตหลังที่เหมาะสม
- เข็มขัดพยุงหลัง (Back Support Belt) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องยกของหนัก ทำงานที่ต้องใช้แรง หรือมีอาการปวดหลังส่วนล่าง ช่วยพยุงกล้ามเนื้อหลังและลดแรงกดบนกระดูกสันหลัง
- แผ่นรองหลัง (Lumbar Support) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องนั่งทำงานนานๆ หรือขับรถเป็นเวลานาน ช่วยรองรับส่วนโค้งของหลังส่วนล่างและปรับปรุงท่าทาง
- เสื้อพยุงหลัง (Posture Corrector) เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องบุคลิกภาพ เช่น หลังค่อม ไหล่ห่อ ช่วยดึงไหล่และหลังให้ตรงขึ้น
- อุปกรณ์พยุงหลังแบบเต็มตัว (Full Back Support) เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง หรือมีปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง
- ช่วยพยุงหลังทั้งส่วนบนและส่วนล่าง
2. เลือกจากขนาดและวัสดุ
- วัดขนาดรอบเอวหรือรอบอกของคุณ เพื่อเลือกขนาดที่พอดี ไม่รัดแน่นหรือหลวมจนเกินไป
- เลือกวัสดุที่ระบายอากาศได้ดี เพื่อป้องกันการอับชื้นและการระคายเคืองผิว
3. เลือกตามการใช้งาน
- เลือกอุปกรณ์ซัพพอร์ตหลังที่เหมาะสมกับกิจกรรมที่คุณทำ เช่น การทำงาน การออกกำลังกาย หรือการยกของหนัก อุปกรณ์ซัพพอร์ตหลังที่ดีจะไม่ทำให้คุณรู้สึกเจ็บปวดหรืออึดอัด
อุปกรณ์ซัพพอร์ตหลังเป็นเพียงตัวช่วยเสริม ไม่สามารถรักษาอาการปวดหลังได้โดยตรงควรออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อหลังและปรับปรุงท่าทางอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรใส่อุปกรณ์พยุงหลังตลอดเวลา เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการอ่อนแรง
หากเพื่อนๆ กำลังมองหาอุปกรณ์ซัพพอร์ตหลังคุณภาพดี MAGDCINE เรามีอุปกรณ์ซัพพอร์ตหลังหลากหลายประเภทให้เลือกสรร เรามีสินค้าที่ตอบโจทย์ทุกสรีระและทุกไลฟ์สไตล์ของคุณ
