ทำความเข้าใจ “ความไว” และ “ความจำเพาะ” ของชุดตรวจสารเสพติด

แชร์บทความนี้

ชุดตรวจสารเสพติด” เป็นเครื่องมือที่ถูกใช้อย่างแพร่หลาย เพราะสะดวก ใช้งานง่าย และรู้ผลได้รวดเร็ว และสิ่งสำคัญที่ทำให้ชุดตรวจสารเสพติดน่าเชื่อถือ “ความไว” (Sensitivity) และ “ความจำเพาะ” (Specificity) ของชุดตรวจนั่นเอง คุณสมบัติทั้งสองนี้เองที่เป็นเสมือนกลไกสำคัญที่รับประกันว่าชุดตรวจจะสามารถ “ตรวจจับ” สารเสพติดที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ

ชุดตรวจสารเสพติด

“ความไว” (Sensitivity) และ “ความจำเพาะ” (Specificity) ของชุดตรวจ

สองสิ่งนี้เปรียบเสมือนหัวใจของชุดตรวจสารเสพติด เพราะ:

  • ความไว (Sensitivity) – ตรวจเจอให้แม่น!

ความไว คือ ความสามารถของชุดตรวจในการ “ตรวจเจอ” สารเสพติดในผู้ที่ใช้จริง

ค่าความไวที่สูง หมายความว่าชุดตรวจสามารถจับสารในร่างกายได้แม้ในปริมาณน้อย ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด “ผลลบปลอม” (false negative) หรือการที่ชุดตรวจบอกว่าไม่เจอ ทั้งที่มีสารอยู่จริง

  • ความจำเพาะ (Specificity) – อย่าจับผิดคน!

ความจำเพาะ คือ ความสามารถของชุดตรวจในการ “แยกแยะ” ให้ถูกว่าอะไรคือสารเสพติดจริง และไม่สับสนกับสารอื่น เช่น ยาแก้แพ้ ยาแก้ปวดบางชนิด

ค่าความจำเพาะที่สูง ช่วยลดความเสี่ยงของ “ผลบวกปลอม” (false positive) หรือการที่ผลตรวจบอกว่าเจอ ทั้งที่ไม่ได้ใช้สารเสพติดจริง

ชุดตรวจสารเสพติดคืออะไร?

ชุดตรวจสารเสพติดส่วนใหญ่จะใช้ ตัวอย่างปัสสาวะ เพื่อค้นหาสารที่ตกค้างอยู่ในร่างกาย เช่น ยาบ้า ยาไอซ์ เฮโรอีน กัญชา หรือเคตามีน ชุดตรวจมักจะเป็นแบบแถบหรือแผ่นทดสอบ ที่เปลี่ยนสีหรือแสดงผลลบ-บวกภายในเวลาไม่กี่นาที

แสดงความคิดเห็น

Get updates and learn from the best

บทความใกล้เคียง

Blog

ทำไมบางคนตรวจสารเสพติดไม่พบ ทั้งที่ใช้ยาเสพติด?

การตรวจหาสารเสพติดเป็นกระบวนการที่ใช้วิเคราะห์ตัวอย่าง เช่น ปัสสาวะ เลือด น้ำลาย เส้นผม หรือเหงื่อ เพื่อระบุว่ามีสารเสพติดตกค้างอยู่หรือไม่

line logo